วิธีการเลือกซื้อรถมือสองให้ได้คุณภาพจากเต้นรถมือสอง
7 ขั้นตอนการเลือกซื้อรถมือสองที่จะได้รถที่ถูกใจใช่เลย
ไม่ว่าจะในสมัยไหน รถยนต์มือสองก็ยังถือว่าคุ้มค่า คุ้มราคา มากกว่ารถยนต์มือหนึ่งทั้งในเรื่องของราคาที่ต้องจ่ายไปแถมถ้าเลือกรถดี ๆ อาจจะได้รถที่มีสภาพแทบจะเหมือนใหม่เลยทีเดียวปัจจุบันนี้มีเต้นรถมือสองเกิดขึ้นมากมาย มีรถให้เราเลือกหลากหลายรุ่น ซึ่งเราจะต้องดูรถเป็นในระดับเพื่อไม่ให้เจอรถย้อมแมว แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงเรื่องสภาพการใช้งาน ถึงภายนอกจะดูใหม่เอี่ยม เลขไมล์ไม่มาก อาจไม่ได้การันตีว่าจะไม่เจอปัญหาในระยะยาว เราจึงมีคำแนะนำดี ๆ มาฝาก ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อรถมือสองสักคันจากไม่ว่าจะเต้นรถ หรือ ที่ใด ๆ รับรองว่าจะช่วยให้คุณเลือกรถมือสองที่ถูกใจ และ วิ่งได้ยาว ๆ อย่างแน่นอน
วิธีดูรถมือสองก่อนตัดสินใจซื้อต้องดูอะไรบ้าง
1.ดูตัวถังรถ
ก่อนอื่นเลยให้เราดูจากรูปทรงตัวรถว่ารถสมส่วน หรือ มีการเอียงไปทางไหนหรือไม่ ช่องไฟระหว่างประตูเท่ากันไหม หากไม่เท่ากัน สันนิษฐานได้เลยว่าอาจจะเคยถอดออกมาซ่อม ซึ่งปกติคงไม่มีใครถอดประตูออกมาถ้าไม่อุบัติเหตุ หรือ นำมาซ่อม
2.ดูความหนาของสี
ความหนาของสีตัวรถบ่งบอกว่ารถคันนี้เคยทำสีมาแล้ว ให้เราใช้มือเคาะเบา ๆ เพื่อฟังเสียง หากรถที่ยังไม่ได้ทำสี เสียงจะโปร่ง ๆ แต่ถ้ารถที่มีการโป้วและทำสีมาใหม่ เสียงจะทึบ ๆ และ ให้เราสังเกตความสม่ำเสมอของเนื้อสี โดยตรวจสอบสีทุกชิ้น ว่ามีสีส่วนไหนใหม่เกินจริง เป็นคลื่นหรือสีส่วนไหนผิดเพี้ยนต่างจากจุดอื่นหรือไม่ หากผิดเพี้ยนให้เราคิดไว้เลยว่ามีการทำสีของชิ้นนั้น
3.ดูตะเข็บต่างๆ
การเลือกรถมือสองควรจะ สังเกตร่องรอยจากคานว่ามีจุดไหนเคาะหรือซ่อมมาหรือไม่ โดยดูรอยที่หัวนอตว่ามีร่องรอยของการถอดมั้ย คานมีสีใหม่ผิดปกติหรือเปล่า สติกเกอร์ที่ติดมาจากศูนย์ยังอยู่ หรือ ไม่ การดูประตูรถมือสอง ให้เราดูรอยพับการเก็บเข้ามุมของบานประตู และ ให้เราดึงยางขอบประตูออกมาดูทั้ง 4 บาน โดยให้เราสังเกตที่รอยอาร์ก (รอยกลม ๆ) รถที่ยังไม่ผ่านการซ่อมจะต้องมีรอยอาร์กตลอดทั้งขอบประตู สุดท้ายให้เราสังเกตรอยอาร์ก และ รอยนูนทั้ง 2 ฝั่ง จะต้องมีเท่ากัน หากพบว่ารอยอาร์ก และ รอยนูนของด้านไหนหายไป ให้สันนิษฐานว่าส่วนนั้นอาจจะถูกชนมา
4.ตรวจสอบประวัติรถ
วิธีเช็กง่าย ๆ เลยดูจากเล่มทะเบียนรถตัวจริง เพราะจะมีข้อมูลทั้งหมดของรถ และจะแสดงประวัติการซ่อมบำรุง หากมีการเปลี่ยนเครื่อง หรือ เคยติดแก๊ส ที่สำคัญเลขตัวถังรถยนต์คันที่ต้องการจะซื้อต้องตรงกับตัวเล่มทะเบียนเท่านั้น
5.ตรวจสอบช่วงล่าง เครื่อง และ เกียร์
ก่อนอื่นเลยต้องตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์ว่ามีการรั่วไหลของน้ำมันหรือไม่ ตรวจสอบสภาพหม้อน้ำให้เปิดฝาด้านบน เพื่อตรวจสอบความขุ่นน้ำของหม้อน้ำตรวจสอบสายเคเบิลเชื่อมต่อว่ามีความเสียหาย หรือ ถูกตัดการเชื่อมต่อหรือไม่ ตรวจสอบน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ และเฟืองท้าย สุดท้ายตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีส่วนใดเสื่อมสภาพ หลุดออก หรือ หายไป
6.ดูส่วนประกอบอื่นๆภายในรถ
การเช็กส่วนประกอบในรถ เช่น แอร์ ลองเปิดแอร์ดูว่ามีกลิ่นเหม็นไหม ลองเปิดไฟเลี้ยวระบบไฟต่างๆว่าเปิดได้ปกติไหม ลองหมุนพวงมาลัยว่าต้องไม่ฝืด หรือ ค้าง ตรวจสอบเลขไมลล์ว่าสอดคล้องต่อความเป็นจริงไหม เช่น รถ 1 ปี เลขไมล์ไม่ควรเกิน 30,000กิโล เป็นต้น ลองดมกลิ่นพรม เบาะ ว่ามีกลิ่นอับชื้นไหม หรือ มีราขึ้นไหม ถ้ามีให้คิดไว้เลยว่ารถเคยน้ำท่วมมา นั้นเอง
7.ทดลองขับจริง
เมื่อดูทุกอย่างครบถ้วนแล้วเป็นที่น่าพึงพอใจ ขั้นสุดท้ายคือการทดลองขับด้วยตัวเอง เพราะจะสามารถจับความผิดปกติของรถได้ ทั้งเครื่องยนต์ ช่วงล่าง เกียร์ ระบบการใช้งานต่าง ๆ ในรถ จะต้องไม่มีเสียงหรือ การตอบสนองที่ผิดไปจากปกติ ซึ่งหากรถอยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์ แม้จะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ ก็สามารถสังเกตพบได้อย่างแน่นอนจากการทดลองขับจริงนั้นเอง
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความรู้เบื้องต้นหากต้องการไปซื้อรถยนต์มือสองเอง ไม่ว่าจะจากเต้นรถ หรือ รถบ้านก็ควรดูสภาพรถอย่างที่กล่าวข้างต้น แต่ถ้าต้องการรถมือสอง ที่ได้คุณภาพได้รับการรับรองจากผู้เชี่ยวชาญมาแล้วว่า รถอยู่ในสภาพดี ไม่เคยน้ำท่วม ชนหนักมาก่อน ติดต่อ กระต่ายคาร์ เรามีรถมือสองให้ท่านเลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรถเก๋งมือสอง กระบะมือสอง รถยนต์อเนกประสงค์ และ อื่น ๆ อีกมากมาย แถมยังมีระบบค้นหาที่มีประสิทธิภาพช่วยให้คุณค้นหารถยนต์มือสองที่ตรงกับความต้องการได้อย่างง่ายดาย พร้อมรับประกันเครื่องยนต์ และ เกียร์นานสูงสุด 1 ปี ให้คุณอุ่นใจหายห่วงเรื่องเครื่องยนต์และระบบไฟฟ้า นอกจากนี้ยังมีทีมผู้เชี่ยวชาญที่คอยให้คำแนะนำและช่วยเหลือคุณตลอดการซื้อขายรถ ลูกค้าจึงมั่นใจในบริการของเราได้อย่างแน่นอน
ติดต่อสอบถามเราได้ทาง